Home ข่าว AI อาวุธใหม่ของแฮกเกอร์ เพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตีไซเบอร์
1.AI อาวุธใหม่ของแฮกเกอร์ เพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตีไซเบอร์

AI อาวุธใหม่ของแฮกเกอร์ เพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตีไซเบอร์

by Kim Nguyen
16 views

13 สิงหาคม  2567

แคสเปอร์สกี้ บริษัทผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลก ได้จัดงานประชุมประจำปี “Kaspersky Cybersecurity Weekend for Asia Pacific Countries 2024” ที่ประเทศศรีลังกา โดยมีการเปิดเผยภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด หลังจากที่ผู้ก่อภัยคุกคามเริ่มใช้ AI ในการโจมตีในเชิงรุก ซึ่งอาจเพิ่มความซับซ้อนและความล้ำหน้าในการโจมตีทางไซเบอร์

การปรับตัวขององค์กรและการปฏิบัติตามกฎหมาย

นายเอเดรียน เฮีย กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของแคสเปอร์สกี้ ได้เน้นย้ำว่า ผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยไซเบอร์และองค์กรที่จ้างผู้ให้บริการควรปรับเปลี่ยนท่าทีด้านความปลอดภัยไซเบอร์และตระหนักถึงผลกระทบทางกฎหมายในภูมิภาคที่ตนปฏิบัติงานอยู่

การผสานรวม AI เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับองค์กรจำนวนมาก เนื่องจาก AI มีความสามารถที่โดดเด่นในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจำเป็นต้องตระหนักถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านข้อมูล โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ AI ซึ่งจำเป็นต้องมีการนำนโยบายมาใช้ในการจัดการข้อมูล โดยต้องพิจารณาถึงความลับของข้อมูลและสิ่งที่ AI สามารถเข้าถึงได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่องค์กรดำเนินงานอยู่นายเอเดรียนกล่าว

นอกจากนี้ นายเอเดรียนยังกล่าวเสริมว่าข้อสำคัญอีกประการหนึ่งที่องค์กรต้องพิจารณาในยุคที่ความพร้อมใช้งาน (uptime) เป็นสิ่งสำคัญสูงสุด คือ ความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการรับมือภัยคุกคามจำเป็นต้องอาศัยการวัดเทเลมิทรีและการบันทึกข้อมูลเพื่อระบุและตอบสนองต่อเหตุการณ์ไซเบอร์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงนโยบายการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ครอบคลุม เพื่อให้สามารถฟื้นตัวจากการโจมตีทางไซเบอร์ได้อย่างรวดเร็ว

การรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์และบทบาทของ AI

นายอิกอร์ คุซเนตซอฟ ผู้อำนวยการทีมวิจัยและวิเคราะห์ระดับโลกของแคสเปอร์สกี้ (GReAT) ได้กล่าวถึงภาพรวมของภัยคุกคามทางไซเบอร์ว่าอาชญากรรมไซเบอร์ที่พบบ่อยที่สุดทั่วโลก คือ แรนซัมแวร์ ซึ่งผู้ก่อภัยคุกคามดำเนินการในลักษณะธุรกิจ (RaaS) โดยช่องทางการติดมัลแวร์ที่พบบ่อยที่สุด คือ การใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของแอปพลิเคชันที่เผยแพร่สู่สาธารณะ รองลงมา คือ การบุกรุกและละเมิดข้อมูลรับรองตัวตน ภัยคุกคามใหม่ที่ต้องระวัง คือ การละเมิดซัพพลายเชน โดยครึ่งหนึ่งของเหตุการณ์ถูกตรวจพบหลังจากการโจมตีสำเร็จไปแล้ว อุตสาหกรรมที่เป็นเป้าหมายหลัก คือ หน่วยงานรัฐบาล สถาบันการเงิน และบริษัทการผลิต

2.AI อาวุธใหม่ของแฮกเกอร์ เพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตีไซเบอร์

การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับ AI และความท้าทายที่เพิ่มขึ้น

ในงานประชุมยังได้เน้นถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของ AI ในอาชญากรรมไซเบอร์ โดย AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการโจมตีทางวิศวกรรมสังคม (social engineering) ด้วยการสร้างอีเมลและอินพุตสำหรับการโจมตีแบบฟิชชิงที่ดูเหมือนจริงมากขึ้น รวมถึงการสร้างพาสเวิร์ด การเข้ารหัสมัลแวร์ และการโจมตีรหัสผ่าน โดยการโจมตีแบบ adversarial attack ซึ่ง AI สามารถถูกหลอกให้จัดประเภทมัลแวร์อย่างไม่ถูกต้อง ทำให้ไฟล์ที่เป็นอันตรายถูกมองว่าเป็นไฟล์ปลอดภัย แคสเปอร์สกี้จึงเลียนแบบการโจมตีนี้ในโมเดลการตรวจจับมัลแวร์เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยและอัตราการตรวจจับ

นายอเล็กซี่ แอนโทนอฟ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลของแคสเปอร์สกี้ กล่าวว่าการโจมตีที่เกี่ยวข้องกับ AI เติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยบางการโจมตียังคงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลที่มีทักษะสูง แต่ก็มีการโจมตีที่ถูกนำไปใช้ในเครื่องมือที่มีอยู่แล้ว ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็นสองส่วนหลักคือ Offensive AI ที่ผู้โจมตีใช้เทคนิคขั้นสูงเพื่อเร่งกระบวนการทำงานและค้นหาเวกเตอร์ภัยคุกคามใหม่ๆ เช่น deep fakes ที่แพร่กระจายในปีนี้ และอีกส่วนคือช่องโหว่ของ AI ซึ่งโมเดล AI บางโมเดลอาจถูกผู้โจมตีบังคับให้ทำสิ่งที่ถูกจำกัดหรือคาดไม่ถึง

นายอเล็กซี่ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แคสเปอร์สกี้ได้ทำการวิจัยปัญหาเหล่านี้มานานหลายปี เพื่อสร้างการป้องกันที่เชื่อถือได้สำหรับลูกค้า โดยใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อตรวจจับการโจมตีที่เป็นอันตรายและภัยคุกคามที่เกิดขึ้น โดยในปี 2024 เพียงปีเดียว สามารถตรวจพบตัวอย่างมัลแวร์ที่ไม่ซ้ำกันถึง 411,000 ตัวอย่างต่อวัน และในปี 2023 มีการตรวจพบมากกว่า 403,000 ตัวอย่างต่อวัน

ประเด็นเร่งด่วนที่สุดที่ถูกยกขึ้นมาในการประชุมครั้งนี้ คือ การโจมตีซัพพลายเชนที่อาจสร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น โรงพยาบาล ธนาคาร สายการบิน และอื่นๆ โดยประเด็นนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอีกครั้งเมื่อบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์จากสหรัฐอเมริกา Crowdstrike เกิดความผิดพลาดในการอัปเดตซอฟต์แวร์ ส่งผลให้เกิดหน้าจอสีน้ำเงินแห่งความตายบนเครื่อง Windows กว่า 8.5 ล้านเครื่องทั่วโลก และก่อให้เกิดความเสียหายทางการเงินอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

3.AI อาวุธใหม่ของแฮกเกอร์ เพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตีไซเบอร์

การป้องกันและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับองค์กร

นายวิทาลี คัมลุค ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์จากทีมวิจัยและวิเคราะห์ระดับโลก (GReAT) ของแคสเปอร์สกี้ กล่าวว่าการโจมตีซัพพลายเชนที่อาจเกิดขึ้นกับโมเดลแมชชีนเลิร์นนิ่ง อาจเกิดจากการปรับข้อมูลการฝึกอบรมเพื่อสร้างช่องโหว่ในโมเดล หรือการปรับเปลี่ยนโมเดล AI ด้วยเวอร์ชันที่ถูกแก้ไขเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจาก AI จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของโลกต่อไป การโจมตีเหล่านี้อาจส่งผลกระทบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่น ซอฟต์แวร์ที่เกิดข้อบกพร่องหรือปัญหาแบ็คดอร์ภายใน SSH ซึ่งผู้ใช้โชคดีที่หลีกเลี่ยงได้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

การโจมตียูทิลิตี้ Linux XZ ซึ่งกลายมาเป็นสิ่งที่ต้องพึ่งพาบริการ Secure Shell Service (SSH) อาจกลายเป็นช่องทางในการโจมตีอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์เครือข่ายนับล้านเครื่อง แต่สามารถตรวจจับและขัดขวางได้ทันเวลา

สุดท้ายนี้ องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องวางแผนและมีกลยุทธ์บรรเทาผลกระทบจากการโจมตีทางไซเบอร์ รวมถึงการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ พนักงานควรได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับช่องทางการโจมตีทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้น เช่น การฟิชชิง บังคับใช้แนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่ดีที่สุด และต้องมีข้อมูลภัยคุกคามล่าสุดจากพันธมิตรด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่เชื่อถือได้ เพื่อรับรองการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ

แหล่งที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/3749082/

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับเรา

wpcustomerhelp เว็บบล็อกข่าวด้านความปลอดภัยในการทำงาน มีเนื้อหาน่าสนใจ ที่คุณสามารถอ่านได้ในทุกวัน 

ติดต่อเรา

Copyright @2024 – All Right Reserved. Designed and Developed by wpcustomerhelp