จป วิชาชีพ คือ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับวิชาชีพตามกฎกระทรวง การจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน บุคลากรหน่วยงาน หรือคณะบุคคลเพื่อดำเนินการด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2565 มีทั้งหมด 13 ข้อ ดังนี้
-
- ตรวจสอบและเสนอแนะให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน
- วิเคราะห์งานเพื่อชี้บ่งอันตรายและกำหนดมาตรการป้องกันและขั้นตอนการทำงานอย่างปลอดภัยเสนอต่อนายจ้าง
- ประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน
- วิเคราะห์แผนงานหรือโครงการและข้อเสนอแนะของหน่วยงานต่างๆและเสนอแนะมาตรการความปลอดภัยในการทำงานต่อนายจ้าง
- ตรวจประเมินการปฏิบัติงานของสถานประกอบกิจการให้เป็นไปตามแผนงานโครงการหรือมาตรการความปลอดภัยในการทำงน
- แนะนำให้ลูกจ้างปฏิบัติตามคู่มือว่าด้วยความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานของสถานประกอบกิจการ
- แนะนำฝึกสอนและอบรมลูกจ้างเพื่อให้การปฏิบัติงานปลอดจากเหตุอันจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในการทำงาน
- ตรวจวัดและประเมินสภาพแวดล้อมหรือดำเนินการร่วมกับบุคคลหรือนิติบุคคลที่ขึ้นทะเบียนหรือได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
- เสนอแนะต่อนายจ้างเพื่อให้มีการจัดการด้านความปลอดภัยในการทำงานที่เหมาะสมกับสถานประกอบกิจการและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
- ตรวจสอบหาสาเหตุและวิเคราะห์การประสบอันตรายการเจ็บป่วยหรือการเกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญอันเนื่องจากการทำงานของลูกจ้าง และรายงานผลการตรวจสอบ รวมทั้งเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อนายจ้างเพื่อป้องกันการเกิดเหตุโดยไม่ชักช้า
- รวบรวมสถิติวิเคราะห์ข้อมูลและจัดทำรายงานและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการประสบอันตรายการเจ็บป่วย หรือการเกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญอันเนื่องจากการทำงานของลูกจ้างเสนอต่อนายจ้าง
- ให้ความรู้และอบรมด้านโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมแก่ลูกจ้างก่อนเข้าทำงานและระหว่างทำงาน เพื่อทบทวนความรู้อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยในการทำงานอื่นตามที่นายจ้างมอบหมาย
ทีมเซฟตี้ (Safety Team) เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญและไม่ควรขาดในองค์กรหรือสถานที่ที่มีความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัย ความสำคัญของทีมเซฟตี้อยู่ที่พวกเขามีบทบาทในการรับผิดชอบและดูแลเรื่องความปลอดภัยในสถานที่ทำงานหรือกิจกรรมที่เสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุหรือภัยความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งนอกจากจะควบคุมและป้องกันอย่างตรงประเด็นแล้ว ทีมเซฟตี้ยังช่วยในการจัดการเหตุการณ์อันตรายที่อาจเกิดขึ้นให้มีความรวดเร็วและมีการตอบสนองที่เหมาะสมต่อสถานการณ์ นอกจากนี้ยังเสริมสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานหรือผู้ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมในสถานที่นั้น ๆ
ความสำคัญของ จป ยังรวมถึง:
- การควบคุมความเสี่ยง: ทีมเซฟตี้มีหน้าที่ตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่และกิจกรรมต่าง ๆ และควบคุมการดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยงในระดับที่ยอมรับได้
- การแนะนำและฝึกอบรม: ทีมเซฟตี้มีหน้าที่ในการให้คำแนะนำและฝึกอบรมพนักงานหรือผู้ที่เข้ามาในสถานที่ ว่า ควรปฏิบัติอย่างไรในเรื่องความปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ
- การจัดการฉุกเฉิน: ทีมเซฟตี้เตรียมการและสามารถตอบสนองในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุได้อย่างรวดเร็วและมีความเชี่ยวชาญ
- การตรวจสอบและการดำเนินการ: ทีมเซฟตี้มีหน้าที่ตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันและดับเพลิงเพื่อให้มีประสิทธิภาพและเตรียมการให้เพียงพอ นอกจากนี้ยังตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน
- สร้างสัญญาณการเตือน: ทีมเซฟตี้ควรสร้างสัญญาณเตือนเมื่อมีเหตุการณ์เสี่ยงหรืออุบัติเหตุเกิดขึ้น เพื่อเตือนพนักงานและประชาชนในสถานที่
- การติดตามและการประเมิน: ทีมเซฟตี้ควรติดตามการดำเนินการในการปฏิบัติความปลอดภัยและดำเนินการประเมินความเสี่ยงต่อเนื่อง
จป วิชาชีพเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในองค์กรหรือสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะเตรียมการและตอบสนองในกรณีฉุกเฉินและอุบัติเหตุ ยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในสถานที่นั้น ๆ ว่ามีการควบคุมความเสี่ยงและความปลอดภัยที่มีความเข้าใจและเสถียรในการดำเนินการ