Home เทคโนโลยี 5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเพลงในร้านอาหาร
1.5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเพลงในร้านอาหาร

5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเพลงในร้านอาหาร

by Kim Nguyen
59 views

ลูกค้าแทบไม่ได้ยินเพลงที่เปิด

ไม่แปลกที่หลายๆ คนจะคิดว่าดนตรีประกอบเป็นเพียงแค่สิ่งที่ใช้สำหรับความเพลิดเพลินหรือแค่เปิดไว้ไปงั้นๆ และไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อประสบการณ์การรับประทานอาหารของลูกค้า

แต่ความจริงแล้ว แม้ว่าจะมากหรือน้อย เพลงก็สามารถมีอิทธิพลต่อจิตใต้สำนึกของผู้มารับประทานอาหารได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น มีงานวิจัยจากร้านไวน์ชื่อดังในอเมริกาแสดงให้เห็นว่าการเล่นดนตรีคลาสสิกทำให้ลูกค้าเลือกไวน์ที่มีราคาแพงกว่า เนื่องจากดนตรีมีความเกี่ยวข้องกับความซับซ้อนและคุณภาพโดยไม่รู้ตัว ในทำนองเดียวกัน การเล่นดนตรีแจ๊สเบาๆ สามารถทำให้ผู้ที่มารับประทานอาหารรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งอาจทำให้พวกเขาเพลิดเพลินกับมื้ออาหารได้นานขึ้นและสั่งอาหารมากขึ้น

เพลงประกอบที่เหมาะสมสามารถกำหนดอารมณ์ เพิ่มประสบการณ์การรับประทานอาหาร และในลูกค้าบางคนก็มีอิทธิพลต่อการรับรู้รสชาติและคุณภาพของอาหารอย่างละเอียดด้วย

ร้านอาหารต้องเปิดเพลงดังๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า

หนึ่งในความเชื่อที่เข้าใจผิดกันมากที่สุดก็คือเพลงยอดนิยมหรือเพลงกระแสหลักสามารถดึงดูดลูกค้า หรือทำให้ลูกค้าสนใจเข้ามาในร้านอาหารมากขึ้น

2.ดนตรีในร้านอาหารนั้นจำเป็นต้องสื่อถึงแบรนด์ หรือแนวของร้านอาหารถึงจะได้ผลสูงสุด

แต่ความเป็นจริงนั้น ดนตรีในร้านอาหารนั้นจำเป็นต้องสื่อถึงแบรนด์ หรือแนวของร้านอาหารถึงจะได้ผลสูงสุด ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารเม็กซิกันที่เล่นเพลงมาริอาชีแบบดั้งเดิมหรือเพลงลาตินอเมริกาสามารถสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่แท้จริงได้ ในขณะที่ร้านซูชิหรูอาจเลือกใช้ดนตรีบรรเลงญี่ปุ่นดั้งเดิมอันละเอียดอ่อนเพื่อเติมเต็มบรรยากาศของร้าน

ตัวอย่างเช่น Starbucks มีการเลือกเพลงอย่างพิถีพิถัน เพื่อเพิ่มความเป็นตัวเองของแบรนด์ โดยมักจะเลือกเพลงอินดี้และโฟล์คที่สอดคล้องกับภาพลักษณ์สมัยใหม่และผ่อนคลาย โดยไม่ได้สนว่าเพลงนั้นจะฮิตหรือไม่

ดนตรีทุกแนวเปิดได้ทุกร้าน

ความเป็นจริงแล้ว ควรเลือกประเภทและจังหวะอย่างพิถีพิธัน เพื่อให้เข้ากับธีมและลูกค้าของร้านอาหาร ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารที่ให้บริการด่วน เน้นซื้อกินอย่างรวดเร็ว อาจเปิดเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานเพื่อรักษาบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและช่วยให้การหมุนเวียนโต๊ะเร็วขึ้น ในทางตรงกันข้าม ร้านอาหารชั้นเลิศอาจใช้ดนตรีช้าๆ คลาสสิคหรือบรรเลงเพื่อสร้างบรรยากาศที่หรูหราและผ่อนคลาย

ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารทะเลริมชายหาดอาจเปิดเพลงเบาๆ หรือเร็กเก้ช้าๆ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ริมทะเล เพื่อเพิ่มประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เพลิดเพลิน

ทุกร้านควรมีดนตรีสด

3.ดนตรีสดอาจดึงดูดผู้คนได้มาก แต่ประสิทธิผลของดนตรีสุดจริง ๆ

ดนตรีสดอาจดึงดูดผู้คนได้มาก แต่ประสิทธิผลของดนตรีสุดจริงๆ แล้วนั้นขึ้นอยู่กับคอนเซปต์ของร้านอาหารและฐานลูกค้า ตัวอย่างเช่น บาร์แจ๊สหรือบลูส์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมากด้วยการแสดงสด เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แท้จริงและดื่มด่ำ อย่างไรก็ตาม ในร้านอาหารขนาดเล็กที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการสนทนาแบบใกล้ชิด หรือร้านอาหารที่เน้นการคุยงาน ร้านที่มีคาราโอเกะ วงดนตรีสดอาจทำให้เกิดความรำคาญและรบกวนบรรยากาศของร้านแทน

เพลย์ลิสต์เพลงเดียวเปิดได้ตลอดทั้งวัน

เวลาที่ต่างกันของวันมักจะดึงดูดลูกค้าประเภทต่างๆ และต้องการอารมณ์ที่แตกต่างกัน เพลย์ลิสต์ที่เหมาะกับกลุ่มคนที่มารับประทานอาหารกลางวันที่มีชีวิตชีวาอาจไม่เหมาะกับการรับประทานอาหารค่ำสุดโรแมนติก ตัวอย่างเช่น คาเฟ่อาจเปิดเพลงอะคูสติกที่สดใสในช่วงกลางวันเพื่อปลุกพลังให้กับลูกค้า และเปลี่ยนไปใช้เพลงบรรยากาศที่นุ่มนวลขึ้นในตอนเย็นเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับเรา

wpcustomerhelp เว็บบล็อกข่าวด้านความปลอดภัยในการทำงาน มีเนื้อหาน่าสนใจ ที่คุณสามารถอ่านได้ในทุกวัน 

ติดต่อเรา

Copyright @2024 – All Right Reserved. Designed and Developed by wpcustomerhelp